อเมริกาในยุคอพยพจากยุโรป มาตั้งถิ่นฐานในทวีอเมริกา ต้องการที่ดินสำหรับเพาะปลูกจึงมีการครอบครองที่ดินกันชึ้น และเมื่อชาวยุโรปอพยพมากันมากขึ้น ความต้องการที่ดินก็เพิ่มมากขึ้น จนกระทบกระทั่งกับชาวพื้นเมืองคืออินเดียนแดง ในปี 1834 รัฐสภาสหรัฐจึงได้กำหนดเส้นเมอร์เดียนที่ 95 เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างผิวขาวกับผิวแดง โดยตกลงกันว่าชาวผิวขาวจะล่วงล้ำเข้าไปในเขตตะวันตกไม่ได้ แต่สัญญาดังกล่าว คนขาวก็ได้ละเมิดอยู่เสมอมา ทั้งจากการทำสงครามและการให้สัญญา ชาวอินเดียนแดงจึงต้องถอยร่นไปทางตะวันตกเรื่อย ๆ แล้วในที่สุดชาวอินเดียนแดงก็ลุกขึ้นต่อต้านการรุกรานของนักล่าดินแดนและพวกนักขุดทอง
สงครามยุติลงด้วยการทำสนธิสัญญาในปี 1868 โดยให้อินเดียนแดงอพยพเข้าไปอยู่ในเขตสงวน “แบล็คฮิลล์” และระบุในสัญญาว่าให้เป็นดินแดนของอินเดียนแดงตลอดกาล แต่ในปี 1872 นักขุดทองได้ลักลอบเข้ามาในแบล็คฮิลล์ เมื่ออินเดียนแดงพบเข้าจึงฆ่าคนเหล่านั้นเสีย รัฐบาลต้องส่งทหารม้าที่ 7 นำโดยนายพลจอร์จ อาร์มสตรอง คัสเตอร์ เข้ามาลาดตระเวณโดยไม่ได้ขออนุญาตจากชาวอินเดียนแดง
คัสเตอร์กลับมารายงานว่า เทือกเขาเหล่านั้นเต็มไปด้วยทองคำ คนขาวจำนวนมากก็เดินทางเข้าสู่แบล็คฮิลล์โดยไม่สนใจสนธิสัญญา ชาวอินเดียนแดงจึงส่งคำประท้วงไปยังวอชิงตัน ประธานาธิบดีรุทเธอร์ ฟอร์ด บี. เฮยส์ จึงส่งกรรมาธิการมาเจรจาให้ขายที่ดินแก่คนขาว
ซิตติ้ง บูล หัวหน้าเผ่าซูส์ ได้รับจดหมายเชิญจากรัฐบาล เขาเอ่ยกับคนเดินสารว่า
“ข้าต้องการให้เจ้าไปแจ้งต่อท่านบิดาใหญ่ว่า ข้าไม่ต้องการขายแผ่นดินไม่ว่าที่ไหนให้แก่รัฐบาล” เขาหยิบฝุ่นดินขึ้นจากพื้นและพูดต่อว่า
“แม้แต่แค่นี้ ข้าก็ไม่ขาย”