ควายป่า ซึ่งถือว่าสำคัญรองจากมนุษย์
ตำรวจอินเดียนยุคหลังสงคราม
ทหารม้ายุครบอินเดียน
เผ่าลาโกต้านั้น แรก ๆ ก็พอทนถึงจะกระทบกันบ้างก็หายกันไป เพราะเห็นว่าคนขาวคงไม่มาก และเข้าใจว่าจะมาขอแค่ทำมาหากินเล็ก ๆ น้อย ๆ ในไม่ช้ากองทหารอเมริกันก็ยกตามเข้ามาตั้งค่ายตลอดเส้นทางที่นักบุกเบิกใช้เรียกว่า Bozeman Trail เพื่อให้ความปลอดภัย พวกลาโกต้าถึงตาสว่างว่านี่มันมายึดของ ๆ เรานี่หว่า
หัวหน้าเมฆแดง (Red Cloud) คือบุคคลแรกของฝ่ายอินเดียนที่ขอส่งขึ้นเวที เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของลาโกต้าขณะนั้นและเป็นผู้ที่พวกเราคุ้นหูในหนังคาวบอยมากที่สุดคนหนึ่ง เขาได้ขึ้นเป็นระดับหัวหน้าเผ่าเมื่ออายุเพียง 32 ปีจากผลงานที่สามารถชักชวนเผ่าไชแอน (Cheyenne) และ อาราปาโฮ (Arapahoe) มาเป็นพันธมิตรทำการขับไล่เผ่าอื่นๆออกจากแบล็คฮิลอย่างถาวร เมื่อต่อมาคนขาวผิดข้อตกลงกับเขาโดยส่งทหารม้า 3,000 คนเข้ามาตั้งค่ายและสังหารหมู่พวกอาราปาโฮ เมฆแดงจึงประกาศสงครามห้ามคนขาวอยู่ในเขตอินเดียนอีกต่อไป นักบุกเบิกที่ดื้อแพ่งก็ต้องบรรทุกอาวุธเต็มอัตราศึก เพื่อการเดินทางที่เสี่ยงชนิดบริษัทประกันไม่กล้ารับทำกรมธรรม์ อันตรายเพียงใดขอให้ดูตัวอย่างที่ นายบิล โธมัสและลูกชายวัย 7 ขวบ ได้บันทึกเอาไว้ระหว่างการเดินทาง วันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1866
“ในวันแรกเราพบหลุมศพ 5 หลุม ซึ่งอินเดียนได้โจมตีขบวนเกวียนของพวกเขาไม่กี่วันก่อน บางคนบาดแผลน่ากลัว ถูกถลกหนังหัว พวกที่รอดตายรีบช่วยกันฝังอย่างลวก ๆ มิได้จัดการศพให้ดี หลุมจึงถูกสัตว์ป่าขุดลงไปกัดกินตามยถากรรม” ทั้งสองพ่อลูกถูกพบในสัปดาห์ต่อมาริมแม่น้ำเยลโล่สโตน (Yellow stone River) มีลูกธนูปักพรุนไปทั้งร่าง ส่วนบันทึกนั้นตกอยู่ข้างร่างของบิลนั่นเอง
การโจมตีอย่างดุดันของเขาเรียกกันว่า “ศึกหัวหน้าเมฆแดง” (Red Cloud’s War) กินเวลาตลอด 3 ปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1866 – 1868 ทำให้รัฐบาลอเมริกันต้องขอยอมเจรจาสงบศึก โดยฝรั่งยอมรับเขตล่าควายของอินเดียนรวมทั้งเขตหวงห้ามที่แบล็คฮิล และกำหนดเขตแดนที่คนขาวจะใช้ประโยชน์ได้โดยไม่มีการรุกล้ำเพิ่มเติม และขอความปลอดภัยในการเดินทางผ่าน เรียกกันว่า “สนธิสัญญาค่ายลารามี่” (Fort Laramie Treaty) สัญญาฉบับนี้จบลงได้เพราะเมฆแดงเป็นคนฉลาดมีวาทะศิลป์ในการเจรจามิได้หลับตาบู๊ลูกเดียว รัฐบาลในกรุงวอชิงตันจึงให้ความเชื่อถือว่าเป็นตัวแทนอันชอบธรรมของชาวอินเดียนต่อมาตลอดชีวิตของเขา เมฆแดงเห็นว่าการรบชนะฝรั่งนั้นเพียงแค่เป็นหมัดแรกของการต่อสู้มิได้ชนะเด็ดขาด เขาจึงไม่หลงตัวแต่หยั่งรู้ว่าเชื้อชาติของตนยังคงตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นจึงวางบทบาทของตนเสียใหม่กลายเป็นคนสุขุมผ่อนสั้นผ่อนยาว ยอมถอยให้ในเวลาอันควรขอเพียงอย่าเป็นเหตุให้เผ่าต้องสูญสลายไปจากแผ่นดินนี้