Sitting Bull ตำนานนักสู้แห่งเผ่า Sioux
We want no white person or persons here. The Black Hills belong to me. If the whites try to take them, I will fight !!!!
เมื่อ Sitting Bull เป็นเด็ก เขาไม่เคยคิดเลยว่าซักวันชาวอินเดียนแดงจะต้องทำสงครามกับชาวผิวขาว Sitting Bull คุ้นเคยกับพ่อค้าชาวผิวขาวมากมาย และออกจะรู้สึกชื่นชอบพวกนี้เสียด้วยซ้ำ
ชาวซูเป็นมิตรกับพวกผิวขาว จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาชาวซูต้องลุกขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความมีตัวตนของตนเอง
จุดกำเนิดแห่งสงคราม Dakota 1862
“ถ้าพวกมันไม่มีอะไรกิน ก็ให้ไปกินเศษหญ้าในมูลสัตว์ของพวกมันได้”
เพียงเพราะคำพูดของพ่อค้าที่ชื่อ แอนดรูว เมเยอร์เพียงคนเดียวที่ทำให้ชาวซูลุกขึ้นสู้ จากนั้นไม่นานคนผิวขาวถูกฆ่าตายจำนวนมากโดยมีเศษหญ้ายัดคาปาก มันเป็นสัญญานบอกถึงความโกรธแค้นที่เผ่าพันธุ์ของตนเองถูกดูหมิ่น
ชาวซูจำนวนสามร้อยกว่าคนโดนจับในข้อหาข่มขืนและฆ่า ทั้งหมดถูกตัดสินประหารชีวิต ในการตัดสินของจำเลยชาวซูบางคนใช้เวลาสอบสวนไม่เกิน 5 นาทีด้วยซ้ำ
อับบราฮัม ลินคอร์น ตีกลับคำพิพากษาไปเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีชาวซูจำนวน 39 คน ต้องรับโทษแขวนคอประหารชีวิต ส่วนที่เหลือต้องถูกส่งไปจำคุก ครึ่งนึงของนักโทษตายก่อนที่จะถูกจองจำ
สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นหลายปี สุดท้ายชาวซูถูกบังคับให้ไปอยู่ยังสถานที่กักกัน แต่บางส่วนของเผ่าไม่ยินยอมจึงอพยพไปเข้ากลุ่มกับพวก Lakota เผ่าย่อยหนึ่งของชาวซู
Sitting Bull นำนักรบชาวซูทั้งจากเผ่า Dakota และ Lakota เข้าโจมตีทหารสหรัฐหลายต่อหลายครั้ง หลายครั้งเขาแพ้เนื่องจากกองกำลังอันน้อยนิดและอาวุธที่ด้อยกว่ามาก เมื่อแพ้เขาก็ถอยเพื่อไปตั้งหลักใหม่ และเข้าปะทะอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
ในปี 1868 Sitting Bull และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาลงนามสนธิสัญญาสงบศึก ข้อเรียกร้องของเขาก็คือ รัฐจะต้องอนุญาตให้ชาวซูใช้ชีวิตได้ตามเดิมในเขต Big Horn และ Black Hills แต่เมื่อนายพล George Armstrong Custer ยืนยันกับทางรัฐว่ามีการขุดพบทองคำใน Black Hills สงครามก็เกิดขึ้นอีกครั้ง สนธิสัญญาใดๆก็ไม่มีความหมายอีกเลย ความศรัทธาของ Sitting Bull ต่อพวกคนขาวหมดลงนับแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้นเขายืนหยัดที่จะเข้าห้ำหั่นเพื่อปกป้องดินแดนและพวกชาติพันธุ์ของเขาอย่างถึงที่สุด
Sitting Bull กล่าวว่า
“โปรดฟังเรา เพื่อนเอ๋ย เรากำลังเจอกับคนอีกกลุ่มนึง ไม่ใช่กลุ่มเดิมที่อ่อนแอดั่งที่บรรพบุรุษของเราได้เคยรู้จัก ตอนนี้พวกเขายิ่งใหญ่ และหยิ่งผยองเสียเหลือเกิน จิตใจของเขาที่จะอยากเจาะลึกเข้าไปใต้พื้นดินของพวกเรา พวกเขารักที่จะเป็นเจ้าของในทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นเสมือนโรคร้ายของพวกเขา พวกเขาตั้งกฎมากมายขึ้นมา กฎที่คนรวยสามารถทำลายได้ แต่คนจนต้องปฏิบัติตาม พวกเขามีศาสนาที่คนจนต้องศรัทธาและปล่อยให้คนรวยเหยียบย่ำทำลาย
เมื่อ 7 ปีก่อน พวกเราได้ลงนามในสนธิสัญญาด้วยหวังว่าดินแดนของเราแห่งนี้จะเป็นของเราตลอดไป แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาข่มขู่เอาจากเราอีก พวกเราควรยินยอมหรืออย่างไร หรือเราควรตอบให้เขารู้ว่า” “ฆ่าพวกข้าซะเถอะ ก่อนที่แกจะได้มีโอกาสครอบครองดินแดนของพ่อข้า! “
ครอบครัวของ Sitting Bull
Sitting Bull เป็นปรปักษ์กับรัฐเป็นเวลานาน แม้ว่าในภายหลัง Sitting Bull จะหลบไปใช้ชีวิตอย่างเงียบๆแล้วก็ตาม รัฐไม่เคยหยุดตามล่าเขา ในปี 1890 ตำรวจบุกเข้าจับกุม Sitting Bull
ชายอายุ 59 ปีถูกลากตัวออกมาจากเคบินที่พัก ชาวเผ่าซูต่างวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ ความชุลมุนเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงปืนดังจากกระบอกปืนของตำรวจ ตำรวจสหรัฐชาวอินเดียนแดงเผ่าซู Lakota
Sitting Bull ตายลงในวันนั้นด้วยลุกกระสุนฝังเข้าที่หัว
ภายหลังมีหญิงชาวซูมาสร้างอนุสาวรีย์เล็กๆให้แก่ Sittng Bull