เร็วๆนี้มีโอกาสได้ดูภาพวาดชายชาวอินเดียน ฝีมือน้องฟ้าศิลปากรมา ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ามีหนังสือเก่าที่ผมโปรดปรานอยู่เล่มหนึ่งชื่อ “ณ ที่ดวงตะวันฉายแสง ข้าจะไม่สู้รบอีกต่อไป” โดน วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ พอกลับไปรื้อหาดูเพื่อกลับมาอ่านใหม่ ก็เลยไปสะดุดใจอยู่บทหนึ่ง เป็นคำกล่าวของ เรด แจ๊คเก็ต หัวหน้าเผ่าเซเนก้า ในปี 1805 บนดินแดนซึ่งปัจจุบันคือรัฐนิวยอร์ค เรด แจ๊คเก้ตได้ตอบสนองต่อการประกาศของมิชชั่นนารีหนุ่มคนหนึ่ง ถึงเหตุผลที่เขาไม่ปรารถนาจะเชื่อในพระเยซูตามคำเชิญชวนของมิชชั่นนารีไว้ดังนี้
“พี่น้อง จงฟังสิ่งที่เราพูด บรรพบุรุษของเราเคยเป็นเจ้าของดินแดนยิ่งใหญ่แห่งนี้ ซึ่งแผ่ขยายจากที่ซึ่งดวงตะวันฉายแสงไปจนถึงที่ซึ่งดวงตะวันลับฟ้า ท่านวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ได้สร้างสิ่งเหล่านี้สำหรับชาวอินเดียน ท่านสร้างฝูงควาย กวาง และสัตว์อื่นๆอีกมากมายเพื่อเป็นอาหาร และให้กำเนิดแก่หมี และตัวบีเวอร์ ใช้หนังของมันมาเป็นเครื่องนุ่งห่ม ท่านปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ท่องเที่ยวไปทั่วผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ และสอนเราว่าจะจับมันได้อย่างไร ท่านสร้างแผ่นดินนี้” ตอนแรกพวกเขามีน้อย และเราเป็นมิตรที่ดีกับพวกเขา พวกเขาบอกว่าพวกเขาหนีออกมาจากประเทศของตน เขาขอที่ดินผืนเล็ก ๆ เราสงสารและยินยอมตามคำเรียกร้องนั้น เขาอาศัยอยู่ด้วยกันกับเรา เราแบ่งข้าวโพดและเนื้อให้ แต่ในทางกลับกัน เขาให้ยาพิษ (เหล้ารัม) แก่เรา…
พี่น้อง ครั้งหนึ่งแผ่นดินของเรานั้นกง้างใหญ่ ส่วนของท่านมีน้อยนิด แต่เดี๋ยวนี้ ท่านกลับเป็นที่ยิ่งใหญ่ ส่วนเราแทบจะไม่มีพื้นดินพิที่จะปูผ้าห่มนอน “ท่านแย่งชิงประเทศของเรา แต่ก็ยังไม่พอใจ ท่านยังต้องการบีบบังคับให้เราเปลี่ยนศาสนา”
พี่น้อง จงฟังต่อไป ท่านบอกว่า ท่านถูกส่งมาเพื่อสอนให้เรารู้จักบูชาท่านวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่เหมือนอย่างท่าน และถ้าเราไม่นับถือศาสนาตามที่คนขาวอย่างท่านสอน เราจะไม่มีความสุขไปตลอด ท่านบอกว่าท่านถูกและเรานั้นหลงผิด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนี้เป็นความจริง เรารู้ว่าศาสนาของท่านได้รับการบันทึกเป็นคัมภีร์ ถ้าศาสนาของท่านเหมาะสมกับเรา เช่นเดียวกับที่เหมาะสมสำหรับท่าน ทำไมท่านวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่จึงไม่ประทานคัมภีร์เล่มนั้นให้แก่เรา และหนทางที่จะเข้าใจมันอย่างถูกต้องให้แก่เราและบรรพบุรุษของเรา เรารู้แต่เพียงที่่านบอกเราเท่านั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนขาวไม่หลอกเรา
พี่น้อง ท่านบอกว่า มีเพียงหนทางเดียวที่รับใช้สักการะท่านวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ ถ้ามีเพียงศาสนาเดียว “ทำไมศาสนาของท่านจึงแตกแยกออกเป็นหลายนิกายหลายความเชื่อ ทำไมทุกนิกายจึงมีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ ทั้งที่พวกท่านอ่านคัมภีร์เล่มเดียวกัน”
พี่น้อง เราไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลย เราได้รับคำบอกเล่าว่าศาสนาของท่านถ่ายทอดมากจากบรรพบุรุษและสืบทอดมาถึงตัวท่าน เราก็มีศาสนาซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษและเชื่อมโยงมาถึงรุ่นลุูกเช่นเดียวกัน เราเคารพในวิถีทางนี้ ซึ่งสอนให้เรารู้จักขอบคุณต่อความเมตตากรุณาที่เราได้รับ รักซึ่งกันและกัน สามัคคีปรองดองกัน เราไม่เคยทะเลาะกันในเรื่องศาสนาเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์แต่ละคนและท่านวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่
พี่น้อง เราไม่ปราถนาที่จะทำลายศาสนาของท่าน หรือพรากมันไปจากท่าน เราเพียงต้องการมีความสุขในวิถีทางของเราเองเท่านั้น
พี่น้อง เราได้รับการบอกเล่าว่า ท่านกำลังเทศน์สั่งสอนคนขาวในดินแดนแถบนี้ คนเหล่านี้เป็นเพื่อนบ้านของเรา เราคุ้นเคยกับพวกเขาเป็นอย่างดี เราจะรอคอยและหยุดดูผลการเทศน์ของท่าน ถ้าเราพบว่าศาสนานี้สอนให้คนขาวเป็นซื่อสัตย์ และสอนให้คดโกงชาวอินเดียนน้อยลงแล้วเราจะพิจารนาอีกทีในสิ่งที่ท่านพูด
พี่น้อง ขณะนี้ท่านได้ฟังสิ่งที่เราพูดหมดแล้ว ก่อนที่เราจะจากไป เราขอนับมือกับท่าน อวยพร และหวังว่าวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่จะปกป้องท่านในการเดินทางและกลับไปหาพี่น้องของท่านอย่างปลอดภัย
