พยานตัวจริงควรจะเป็นพวกอินเดียนที่อยู่ในเหตุการณ์

มองย้อนลงเนินไปทางแม่น้ำ สังเกตเป็นหลุมฝังศพทหาร อยู่เป็นคู่ๆ แสดงจุดที่ทหารยิงตัวตายแทนการถูกจับ

LBH4-1

คัสเตอร์ พร้อมทหารอีก 200 คน รุกโอบตามแผนที่ได้ฝึกกันมา โดยสั่งให้ทหาร 150 คน แปรแถวอยู่ข้างหน้าเตรียมเข้าโจมตี ตามตำราเปี๊ยบคือให้ลงจากม้ามาตั้งแนวประจันบานยืนห่างกันคนละ 5 หลาโดยมีคนอีกราว 1 ใน 4 ทำหน้าที่จับม้าไว้ให้อยู่ข้างหลังเลยไม่ได้ช่วยรบ ฝรั่งเชื่อว่าปืนสมัยใหม่ยิงแม่นกว่าเดิมจึงให้อยู่ห่างแบบนี้จะได้ไม่เป็นเป้านิ่ง ส่วนตัวคัสเตอร์ และพวกที่เหลือ รวมกันเป็นกองหลังอยู่บนยอดเนิน ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจกันว่าเป็นจุดสุดท้ายของการสู้รบ  เบื้องหลังของเนินนี้เป็นร่องน้ำลึกลงไป เมื่อเห็นอินเดียนไต่พ้นตลิ่งมาโผล่ที่ชายทุ่งหน้าแนวรุกของตนมากขึ้นเรื่อยๆนั้น คัสเตอร์ฉุกคิดได้ว่ากองหนุนและกระสุนสำรองอยู่ล้าหลังมาก เขาส่งพลนำสารไปตามทหารกองที่ 3 ของเบ็นทีนมาพร้อมกับเกวียนกระสุน กระดาษข้อความเป็นลายมือของเขายังหลงเหลือมาจนปัจจุบัน สารฉบับนั้นบอกสั้นๆว่า  “เบ็นทีนมาที่นี่เถอะ โปรดเอาสัมภาระมาด้วย” (Benteen comes on and please brings packs) ผู้กองเบ็นทีนพยายามอย่างที่สุดได้แค่เพียงมาสมทบกับพวกของเรโนที่เหลือจากการเข้าตีระลอกแรก กระสุนสำรองและทหารที่มาเพิ่มทำให้ พลทหารวินดอล์ฟรอดตัวมาเล่าเรื่องให้ฟังภายหลังได้  เป็นความซวยที่ค่ายอินเดียนส่วนใหญ่ตั้งค่อนมาทางที่คัสเตอร์ ชะลอพลอยู่กลางทุ่งนักรบเผ่าต่างๆ ทุกเพศทุกวัยปืนตลิ่งมาโผล่ใกล้ๆทหารของเขานั่นเอง

ตรงนี้ก็ถือเป็นความพลาดอย่างไม่น่าอภัยอีกเป็นข้อที่ 3 เพราะแทนที่คัสเตอร์จะถอนกำลังไปหาเรโน กลับยังคิดว่าอยู่ในสภาพที่สามารถบุกต่อได้ การขยายแถวเป็นแนวยาวด้วยทหารเพียง 200 คนเพื่อสู่อินเดียน 3 พันคนก็ทำให้อำนาจการยิงต้านทานไม่แน่นหนา ทหารในแถวช่วยกันไม่ได้เลย ท่านผู้อ่านจะสังเกตได้ว่าในยุคที่ปืนยังบรรจุทีละนัดนั้น จำเป็นต้องควบคุมให้ทหารยิงอย่างมีระเบียบพร้อมๆกัน และอยู่รวมเป็นกลุ่มเป็นก้อน กองทหารอังกฤษที่รบกับคนป่าซูลูยังต้องมีนายสิบคอยสั่งเล็งสั่งยิงเป็นแถวๆไป เพราะว่าถ้าทหารขาดวินัย หรือใจไม่มั่นคงแล้ว มักมีแนวโน้มจะเล็งสูงข้ามหัวข้าศึกไปหมด  และถ้ายิงตามใจแต่ละคนก็คงหลับตารัวไปจนหมดกระสุนเปล่าๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

คุณอาจจะใช้ป้ายกำกับและคุณสมบัติHTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>