ณ ดินแดงที่ราบใหญ่มีอณาเขตตั้งต้นจากทางใต้ของแคนนาดาไปจนถึงรัฐเท็กซัส และตะวันตกตอนกลางของรัฐดาโกตา โอกลาโฮมาเนบราสกาและรัฐแคนซัสไปจนถึงเทือกเขาร็อกกี้ เพราะดินแดนอันกว้างใหญ่นี้จึงมีชนชาวอินเดียนแดงหลายเผ่าอยู่กันกระจัดกระจายไปในที่ราบ เช่น เผ่าซูส์และไชแอนน์เผ่าเหนือ ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ราบทางตอนเหนือ ส่วนที่ราบทางตอนกลางและใต้จะมีชนเผ่ากิโอวา อาราปาโฮ โคมานเช่ และไซแอนน์เผ่าใต้อาศัยอยู่ รวมทั้งเผ่ากลุ่มเล็ก กลุ่มน้อยที่ด้อยอำนาจกว่า เช่น พอว์นี โครว์ ไอโอวา วิชิตา ที่รู้จักกันในนามของแบล็คฟีตและโอมาฮา เป็นต้น ชาวอินเดียนแดงแห่งที่ราบใหญ่จะร่อนเร่ไปตามที่ราบใหญ่จะล่าสัตว์เป็นอาหาร โดยเฉพาะควายป่าที่และเล็มหญ้าในท้องทุ่ง ควาย คือทรัพยากรของชีวิตพวกเขา ควายป่าให้ประโยชน์ตั้งแต่พวกเขาเกิดจนตาย ไม่ว่าจะเป็นหนัง เนื้อ กระดูก หาง หรือแม้กระทั่งขน หรือแม้มันจะตายไปแล้ว ควายป่าก็ยังให้ของขวัญชิ้นสุดท้ายแก่พวกเขา นั้นก็คือหนังควายที่ห่อร่างไร้วิญญาณของพวกเขา แต่เมื่อคนขาวมาถึง พวกเขาได้ฆ่าควายขาวไปมากมายเพราะต้องการหนังของมัน มิหนำซ้ำส่วนใหญ่พวกคนขาวจะไม่มีประสบการณ์ พวกคนขาวคร่าชีวิตควายไปมากมายอย่างไร้ประโยชน์ก่อนที่พวกเขาจะเรียนรู้วิถีถลกหนังให้ถูกต้องเสียอีก เพราะพวกเขาเพียงหวังแต่ที่จะนำหนังของควายป่าไปขายเท่านั้น ชาวอินเดียนแดงจึงกลัวว่าการทำลายล้างควายป่าไปนั้นจะนำความพิบัติมาสู่พวกเชา พวกเขาอาจจะยกโทษให้คนขาวที่ทำลายล้างหมู่บ้านหรือไม่รักษาคำมั่นสัญญาตามเอกสารที่ตกลงกันไว้ แต่อินเดียนแดงจะไม่มีวันยกโทษให้แก่การล่าควายป่าเกินจำเป็น เพราะชนชาวอินเดียนแดนนั้นถือว่าควายป่าคือ “ทรัยพยากรและวิญญาณแห่งที่ราบใหญ่” ดังนั้นพวกอินเดียนแดงแห่งที่ราบใหญ่จึงยื่นคำร้องต่อกรุงวอตันเพราะพวกเขามีชีวิตอยู่รอดได้ด้วยควายป่าแต่รัฐบาลมิได้จัดการอะไรมาก เพียงแค่ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความสงบและกองทหารไปหมุนเวียนกันประจำในป้อมทหาร อีกสาเหตุหนึ่งคือการขยายเมืองของคนขาวที่ขยายตัวออกไปจนล้ำดินแดนของพวกอินเดียนแดงทั้งๆ ที่มีการแบ่งเขตสงวนเอาไว้ให้ชาวพื้นเมืองแล้ว การเก่งแย่งที่ดินทำให้เกิดการกระทบกระทั่นเกิดขึ้นเป่าซูส์ได้ขับไล่คนขาวในบริเวณการล่าควาย ฆ่านายพราน และโจมตีรถไฟที่บรรทุกพวกที่กำลังอพยพเข้ามาในที่ราบใหญ่ ความขัดแย้งลุกลามจนเกิดเป็นสงครามใหญ่น้อยอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และร้อนรุอุลุกลามไปทั่วดินแดนที่ราบและทั่วทวีป เฉพาะในที่ราบใหญ่ก็กินเวลาถึงยี่สิบกว่าปี สงครามทวีความเข้มข้นเมื่อรัฐได้เข้าระดมกำลังเข้าปราบปรามอินเดียนแดง นั้นคือที่มาของ “สงครามตะวันเดือดในที่ราบใหญ่” เพราะสำหรับอินเดียนแดงแล้วพวกเขาจะปกป้องดินแดนแห่งนี้ตราบเท่าที่เลือกยังทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นอยู่