ทีมแม่นปืนสมัยสงครามกลางเมือง สิ่งที่ทหารของคัสเตอร์ไม่มีโอกาสได้ฝึก
ผู้ที่ชอบเป็นข่าวอย่างคัสเตอร์นั้น ได้ดังสมใจมาถึงทุกวันนี้ พวก นสพ.ประโคมข่าวว่าเขาตายอย่างวีรบุรุษ โรงละครทั่วประเทศนำเรื่องของเขามาแสดงและภรรยาของเขาก็ได้ เขียนหนังสือชีวประวัติ ขายดีเป็นเทน้ำจนได้อยู่บ้านหรูหรามีชีวิตอย่างที่คัสเตอร์เคยวาดฝันไว้ มหาชนอเมริกันยังยกให้ผู้เฒ่าวัวนั่ง (Sitting Bull) เป็นหัวหน้าฝ่ายอธรรม บางคนก็หาว่า มีฝรั่งที่ถูกไล่ออกจาก รร.ทหารที่เวสฟอยท์มาสอนยุทธวิธีให้จึงรบเก่ง บางคนก็เพ้อเจ้อหาว่าพวกฝรั่งเศสที่มาค้าหนังสัตว์ เอาตำรารบของนโปเลียนมาให้อ่าน
ที่จริงแล้วพวกอินเดียนมิได้คิดว่าตนชนะแต่กระจัดกระจายล่าถอยออกไปทางเหนือ ซิทติ้งบุลรู้ว่าต้องถูกไล่ล่าจึงหนีข้ามไปคานาดาเพื่อขอลี้ภัย พรรคพวกของเขาอยู่อย่างอัตคัตแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวคานาดาพอควร จนกระทั้งรัฐบาลอเมริกาเสนอว่าจะหาที่ให้อยู่อย่างสงบทางตอนเหนือของสหรัฐซึ่งซิตติ้งบุลก็ยอมตกลง ในปี ค.ศ. 1881 เขาได้มีโอกาสเดินทางไปทั่วอเมริกากับคณะแสดงของบัฟฟาโล่ บิล และได้ไปถึงยุโรป แต่แล้วในปี ค.ศ. 1890 ระหว่างพิธีระบำบูชาผีบรรพบุรุษ (Ghost Dance) ซึ่งคล้ายพิธีเต้นปลุกใจก่อนออกศึก พวกอเมริกันเข้ามาห้ามแล้วเลยพาลยิงหัวหน้าผู้เฒ่าจนเสียชีวิต พวกลาโกต้าที่เหลือโกรธมากก่อการประท้วง ทำให้ทหารต้องรุมสังหารคนอีก 2-3 ร้อยในการรบที่เรียกว่า ศึกเข่าเจ็บ (Battle of Wounded Knee) เป็นอันว่าพวกอเมริกันหาทางแก้เผ็ดให้แก่คัสเตอร์จนได้